540 จำนวนผู้เข้าชม |
ประกันที่จะตอบโจทย์ดังกล่าวนั่นก็คือ ประกันชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 3+ ส่วนความคุ้มครองที่บอกว่าใกล้เคียงประกันชั้น 1 นั้นคืออะไร? TIPINSURE มีคำตอบมาให้คุณ…
ประกันชั้น 2+ คุ้มครองบุคคลภายนอกรถ บุคคลภายในรถ รถหาย รถไฟไหม้ และรถชนแบบมีคู่กรณีเหมือนประกันชั้น 1 แต่สิ่งที่แตกต่างกันออกมาคือจะยกเว้นความคุ้มครองน้ำท่วมและรถชนแบบไม่มีคู่กรณี
ประกันชั้น 3+ คุ้มครองบุคคลภายนอกรถ บุคคลภายในรถ และรถชนแบบมีคู่กรณี ส่วนที่เป็นข้อยกเว้นคือประกันชั้น 3+ จะไม่คุ้มครองสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม และชนแบบไม่มีคู่กรณี
จะเห็นได้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+, 3+ จะเน้นในส่วนของการชนแบบมีคู่กรณีมากกว่า ซึ่งค่อนข้างตอบโจทย์กับคนที่อยากจ่ายน้อยแต่ยังมีความกังวลในเรื่องการชน เพราะหลายคนรู้ว่าชนกันขึ้นมาทีไม่ได้เสียแค่ร้อยสองร้อย แต่เสียกันเป็นหลักพัน หลักหมื่น
นอกจากนั้นแล้วประกันชั้น 2+ และ 3+ ก็ยังมาในราคาที่ถูกลงไปกว่าครึ่งจากเบี้ยประกันชั้น 1 โดยประกันชั้น 2+ เริ่มต้นที่ 6,399 บาท/ปี และประกันชั้น 3+ เริ่มต้นที่ 5,399 บาท/ปี และปัจจุบันประกันนอกจากจะมีแพ็คเกจเบี้ยประกันที่ตอบรับกับความต้องการของคนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว หลายที่ก็รองรับการซื้อออนไลน์ได้แล้ว อย่าง TIPINSURE.com ก็เช่นกัน เพียงแค่เช็คราคา กรอกข้อมูล ชำระเงิน ก็เสร็จสิ้นเรียบร้อย รอรับกรมธรรม์ทางอีเมลได้เลย
ประกันชั้น 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร? เลือกแบบไหนดี
ประกัน 2 พลัส (ประกัน 2 บวก, 2+) และประกัน 3 พลัส (ประกัน 3 บวก, 3+) มีความคุ้มครองในส่วนที่เหมือนกันดังนี้คุ้มครองความเสียหายต่อบุคคลภายนอก (ผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต)
คุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอก เช่น รถของคู่กรณี เสาไฟฟ้า
คุ้มครองความเสียหายของรถคันเอาประกัน ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุชนกับยานพาหนะทางบก รวมถึงรถไฟ และรถพ่วง
คุ้มครองผู้ขับขี่ และผู้โดยสารในรถคันเอาประกัน กรณีบาดเจ็บ เสียชีวิต
มีวงเงินประกันตัวผู้ขับขี่ หากเกิดอุบัติเหตุเป็นคดีอาญา
จุดแตกต่างอย่างเดียว คือ ประกัน 2 พลัสให้ความคุ้มครองกรณีรถหาย และไฟไหม้ด้วย
ดังนั้น ในการเลือกทำประกันระหว่าง 2 พลัส กับ 3 พลัส ประเด็นที่ควรพิจารณาคือ รถของเรามีความเสี่ยงต่อไฟไหม้ หรือการถูกโจรกรรมมากน้อยเพียงใด เช่น รถติดแก๊ส มีความเสี่ยงต่อการไฟไหม้ ก็ควรเลือกทำประกัน 2 พลัส แต่ถ้าหากรถไม่ได้ติดแก๊ส และมีที่จอดรถในบ้าน หรือที่ๆ มีการดูแลรักษาความปลอดภัยดี ก็อาจพิจารณาทำประกัน 3 พลัสแทนได้
ทั้งนี้ราคาประกัน 2 พลัส และ 3 พลัส จากบริษัทเดียวกัน ที่วงเงินความคุ้มครองเท่ากัน ราคาอาจต่างกันประมาณพันกว่าบาท ดังนั้น ถ้าหากมองว่าเงินส่วนต่างนี้เป็นจำนวนไม่มาก อยากซื้อความสบายใจ ได้ความคุ้มครองมากกว่า ก็ทำประกัน 2 พลัสได้เช่นกัน
เปรียบเทียบเบี้ยประกันชั้น 1 2 2+ 3 และ 3+ บทความเดียวจบครบทุกชั้น!
พราะความอุ่นใจเรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อน! ไม่ว่าจะใช้รถรุ่นอะไร อายุการใช้งานกี่ปี ขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ของตัวเอง ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงที่ทำงานเก็บเงินมานับปี แถมยังเป็นความรับผิดชอบต่อชีวิตของตัวเองและผู้อื่นขนาดนี้ “ประกันรถยนต์” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนควรมีเอาไว้ โดยไม่ว่าจะเลือกทำชั้นไหนก็เพิ่มความอุ่นใจที่เหมาะสมกับการใช้รถได้ทั้งนั้น หากใครกำลังจะต่อประกันรถ เราชวนมาเปรียบเทียบเบี้ยประกันแต่ละชั้นและอัปเดตความคุ้มครองกันว่ายังตรงตามที่อยากได้อยู่หรือไม่ หรือว่าอยากลองเปลี่ยนไปใช้ประกันชั้นอื่นดูบ้าง ประกันชั้น 1 • เป็นประกันที่มอบความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด โดยจะชดเชยความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอกและเจ้าของรถ คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายหรือเสียหายจากไฟไหม้และภัยธรรมชาติ ทั้งยังครอบคลุมกรณีที่ชนแบบไม่มีคู่กรณีอีกด้วย • เบี้ยประกันชั้น 1 แบบซ่อมอู่อยู่ที่ประมาณ 14,000 บาทต่อปี และซ่อมห้างประมาณ 25,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับทุนประกัน บริษัทประกัน และโปรโมชัน • เมื่อเปรียบเทียบเบี้ยประกันและความคุ้มครองแล้ว ประกันชั้น 1 เหมาะกับรถใหม่และคนที่ยังไม่ชำนาญในการขับรถมาก ประกันชั้น 2 • ประกันชั้น 2 มอบความคุ้มครองที่เหมือนกับประกันชั้น 1 ยกเว้นเพียงจะไม่คุ้มครองตัวรถของผู้เอาประกันเลยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ แต่ยังคุ้มครองกรณีสูญหายหรือไฟไหม้อยู่ • เบี้ยประกันชั้น 2 อยู่ที่ประมาณ 3,700 - 4,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับทุนประกัน บริษัทประกัน และโปรโมชัน • ประกันชั้น 2 เหมาะกับผู้ที่มีความชำนาญในการขับรถมาแล้วระยะหนึ่ง และมีรถที่ใช้งานมาไม่นานมาก ประกันชั้น 2+ • ประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองเหมือนชั้น 2 ทุกประการ แต่จะเพิ่มความอุ่นใจด้วยการคุ้มครองการชนกับยานพาหนะทางบกและหาคู่กรณีได้ • เบี้ยประกันชั้น 2+ อยู่ที่ประมาณ 5,000 - 9,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับทุนประกัน บริษัทประกันและโปรโมชัน • เมื่อเปรียบเทียบเบี้ยประกันและความคุ้มครองแล้ว ประกันชั้น 2+ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความอุ่นใจเทียบเท่าประกันชั้น 1 แต่ต้องการจ่ายน้อยกว่า ประกันชั้น 3 • ประกันชั้น 3 นั้นคุ้มครองเหมือนชั้น 2 แต่จะไม่คุ้มครองตัวรถของผู้เอาประกันเลย • เบี้ยประกันชั้น 3 อยู่ที่ประมาณ 1,800 - 2,500 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับทุนประกัน บริษัทประกันและโปรโมชัน • เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยได้ขับรถ รถจอดอยู่เฉย ๆ หรือรถที่ใช้งานมานานแล้ว แต่ยังต้องการความคุ้มครองนอกเหนือจาก พ.ร.บ. อยู่ ประกันชั้น 3+ • สำหรับประกันชั้น 3+ จะเพิ่มความคุ้มครองในส่วนของการชนกับยานพาหนะทางบกแบบที่ระบุคู่กรณีได้เพิ่มขึ้นมา • เบี้ยประกันชั้น 3+ อยู่ที่ประมาณ 5,000 - 7,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับทุนประกัน บริษัทประกันและโปรโมชัน • เหมาะกับผู้ที่ใช้รถบ้าง รถที่ค่อนข้างเก่าแล้ว แต่ยังต้องการความอุ่นใจหากเกิดอุบัติเหตุอยู่ เมื่อเปรียบเทียบเบี้ยประกันและความคุ้มครองแล้วค่อนข้างใกล้เคียงกับชั้น 2 จึงอาจพิจารณาเลือกตามความเหมาะสมว่าต้องการความคุ้มครองกรณีสูญหายและไฟไหม้ หรือการชนแบบมีคู่กรณีมากกว่ากัน