รถจอดตากแดดตากฝน มีวิธีรับมืออย่างไร?
2703 จำนวนผู้เข้าชม |
ช่วงกลางปีแบบนี้ถือได้ว่าเป็นช่วงที่อากาศแปรปรวนอย่างมาก ทั้งแดดร้อน ทั้งพายุฝนโหมกระหน่ำ นอกจากคนที่ควรต้องระวังสุขภาพตัวเองแล้ว การปล่อยรถจอดตากแดดตากฝนเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจทำให้รถเกิดความเสียหายและเสื่อมสภาพได้มากกว่าที่คิด วันนี้เราจะมาดูกันว่า การจอดรถไว้ด้านนอกให้ตากแดด ตากฝนอยู่เป็นประจำนั้นมีข้อเสียอย่างไร และเราจะมีวิธีป้องกันรถจอดตากแดดตากฝนจากความเสียหายได้อย่างไรบ้าง?
รถจอดตากแดดตากฝนส่งผลเสียต่อรถอย่างไร
การนำรถจอดตากแดดตากฝน ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุจากการที่ไม่มีพื้นที่จอดรถ หรือการปล่อยปละละเลยของผู้ใช้รถที่คิดว่ารถจะไม่เกิดความเสียหายอะไร ล้วนก่อให้เกิดผลเสียต่อสภาพรถได้ในหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
1.สีรถซีดไวขึ้น
การจอดรถไว้กลางแจ้งจะส่งผลให้สีของรถเกิดความซีด หมอง จากแดดและรังสียูวี นอกจากนี้ การจอดรถตากฝนที่มีทั้งความชื้นและฝุ่นต่าง ๆ หากทิ้งไว้นาน ๆ อาจทำให้เกิดคราบฝุ่นฝังแน่นที่ทำความสะอาดได้ยาก และเกิดเป็นสนิมจากความชื้น โดยเฉพาะรถสีเข้ม ๆ ที่อาจเกิดเป็นรอยด่าง หรือรถสีขาวที่อาจเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ทำให้ดูเก่าและเสื่อมราคา
2.ยางเสื่อมสภาพเร็ว
ยางนอกรถที่โดนแสงแดดและความร้อนเป็นเวลานาน ๆ อาจเกิดอาการแห้ง กรอบ และมีโอกาสยางแตกหรือยางระเบิดได้ง่ายขึ้นจากความร้อนสะสม ส่วนยางในที่โดนความร้อนอาจทำให้เนื้อยางเสื่อมสภาพ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงระหว่างการขับขี่และก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น
3.แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว
ความร้อนสูงจากแสงแดดและสภาพอากาศทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่สั้นลง โดยเฉพาะแบตเตอรี่ประเภทที่ต้องใช้น้ำกลั่น เพราะจะทำให้น้ำกลั่นเกิดการระเหยมากกว่าปกติและลดประสิทธิภาพในการใช้งาน รวมถึงเมื่อจอดรถตากฝนนาน ๆ อาจทำให้เกิดความชื้นสะสม ซึ่งส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เช่นกัน
4.เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนภายใน
การนำรถจอดตากแดดตากฝนเป็นเวลานานยังส่งผลต่อชิ้นส่วนภายในรถยนต์ ทั้งคอนโซลหน้ารถ เบาะรถ หรือภายในห้องเครื่อง โดยแดดจะทำปฏิกิริยากับพลาสติก ผ้า และเครื่องหนังทำให้เบาะรถดูซีด เสียหาย และการจอดรถตากฝนอาจทำให้น้ำฝนซึมเข้ามาภายในตัวรถ เกิดความอับชื้นและก่อให้เกิดเชื้อราที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
วิธีรับมือเมื่อรถจอดตากแดดตากฝน
หากมีเหตุจำเป็นที่ทำให้เราต้องนำรถจอดตากแดดตากฝน การป้องกันรถจากแสงแดดและสภาพอากาศก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้รถของเราเกิดความเสียหายน้อยที่สุด โดยมีหลากหลายวิธีป้องกันที่ผู้ใช้รถควรทราบ ดังนี้
1.ใช้ม่านบังแดดรถยนต์
การใช้ม่านบังแดดบริเวณกระจกรถทั้งกระจกหน้า กระจกข้างประตู หรือกระจกหลัง จะช่วยป้องกันอุปกรณ์ภายในอย่างเบาะรถยนต์จากรังสียูวี อีกทั้งยังช่วยลดอุณหภูมิภายในรถได้อีกด้วย โดยควรเลือกม่านบังแดดที่ทำจากวัสดุอย่างผ้าซิลเวอร์โค้ต ผ้าไทเวค ดูปองท์ หรือผ้าฟอยล์ ที่สามารถสะท้อนแสงและป้องกันรังสียูวีได้เป็นอย่างดี
2.ใช้ผ้าคลุมรถ
ผ้าคลุมรถแบบเต็มคันจะช่วยป้องกันทั้งแสงแดดและละอองน้ำฝนไม่ให้เข้าไปสร้างความเสียหายกับตัวรถได้ โดยควรเลือกผ้าคลุมรถที่ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป และผลิตด้วยวัสดุที่สามารถกันยูวีได้อย่าง PVC อะลูมิเนียมฟอยล์ หรือเส้นใยโพลีเอสเตอร์
3.เคลือบสีรถ
การเคลือบสีรถยนต์เป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้สีสันของรถมีความเงางามอยู่เสมอ อีกทั้งยังสามารถป้องกันคราบสกปรก รอยน้ำ แสงแดด และรอยขีดข่วนต่าง ๆ ได้ โดยสามารถเลือกได้ทั้งการเคลือบแว็กซ์ เคลือบซิลิโคน หรือเคลือบแก้ว ซึ่งมีอายุใช้งานและราคาที่แตกต่างกันออกไป
รถจอดตากแดดตากฝนส่งผลเสียต่อรถอย่างไร
การนำรถจอดตากแดดตากฝน ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุจากการที่ไม่มีพื้นที่จอดรถ หรือการปล่อยปละละเลยของผู้ใช้รถที่คิดว่ารถจะไม่เกิดความเสียหายอะไร ล้วนก่อให้เกิดผลเสียต่อสภาพรถได้ในหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
1.สีรถซีดไวขึ้น
การจอดรถไว้กลางแจ้งจะส่งผลให้สีของรถเกิดความซีด หมอง จากแดดและรังสียูวี นอกจากนี้ การจอดรถตากฝนที่มีทั้งความชื้นและฝุ่นต่าง ๆ หากทิ้งไว้นาน ๆ อาจทำให้เกิดคราบฝุ่นฝังแน่นที่ทำความสะอาดได้ยาก และเกิดเป็นสนิมจากความชื้น โดยเฉพาะรถสีเข้ม ๆ ที่อาจเกิดเป็นรอยด่าง หรือรถสีขาวที่อาจเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ทำให้ดูเก่าและเสื่อมราคา
2.ยางเสื่อมสภาพเร็ว
ยางนอกรถที่โดนแสงแดดและความร้อนเป็นเวลานาน ๆ อาจเกิดอาการแห้ง กรอบ และมีโอกาสยางแตกหรือยางระเบิดได้ง่ายขึ้นจากความร้อนสะสม ส่วนยางในที่โดนความร้อนอาจทำให้เนื้อยางเสื่อมสภาพ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงระหว่างการขับขี่และก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น
3.แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว
ความร้อนสูงจากแสงแดดและสภาพอากาศทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่สั้นลง โดยเฉพาะแบตเตอรี่ประเภทที่ต้องใช้น้ำกลั่น เพราะจะทำให้น้ำกลั่นเกิดการระเหยมากกว่าปกติและลดประสิทธิภาพในการใช้งาน รวมถึงเมื่อจอดรถตากฝนนาน ๆ อาจทำให้เกิดความชื้นสะสม ซึ่งส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เช่นกัน
4.เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนภายใน
การนำรถจอดตากแดดตากฝนเป็นเวลานานยังส่งผลต่อชิ้นส่วนภายในรถยนต์ ทั้งคอนโซลหน้ารถ เบาะรถ หรือภายในห้องเครื่อง โดยแดดจะทำปฏิกิริยากับพลาสติก ผ้า และเครื่องหนังทำให้เบาะรถดูซีด เสียหาย และการจอดรถตากฝนอาจทำให้น้ำฝนซึมเข้ามาภายในตัวรถ เกิดความอับชื้นและก่อให้เกิดเชื้อราที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
วิธีรับมือเมื่อรถจอดตากแดดตากฝน
หากมีเหตุจำเป็นที่ทำให้เราต้องนำรถจอดตากแดดตากฝน การป้องกันรถจากแสงแดดและสภาพอากาศก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้รถของเราเกิดความเสียหายน้อยที่สุด โดยมีหลากหลายวิธีป้องกันที่ผู้ใช้รถควรทราบ ดังนี้
1.ใช้ม่านบังแดดรถยนต์
การใช้ม่านบังแดดบริเวณกระจกรถทั้งกระจกหน้า กระจกข้างประตู หรือกระจกหลัง จะช่วยป้องกันอุปกรณ์ภายในอย่างเบาะรถยนต์จากรังสียูวี อีกทั้งยังช่วยลดอุณหภูมิภายในรถได้อีกด้วย โดยควรเลือกม่านบังแดดที่ทำจากวัสดุอย่างผ้าซิลเวอร์โค้ต ผ้าไทเวค ดูปองท์ หรือผ้าฟอยล์ ที่สามารถสะท้อนแสงและป้องกันรังสียูวีได้เป็นอย่างดี
2.ใช้ผ้าคลุมรถ
ผ้าคลุมรถแบบเต็มคันจะช่วยป้องกันทั้งแสงแดดและละอองน้ำฝนไม่ให้เข้าไปสร้างความเสียหายกับตัวรถได้ โดยควรเลือกผ้าคลุมรถที่ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป และผลิตด้วยวัสดุที่สามารถกันยูวีได้อย่าง PVC อะลูมิเนียมฟอยล์ หรือเส้นใยโพลีเอสเตอร์
3.เคลือบสีรถ
การเคลือบสีรถยนต์เป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้สีสันของรถมีความเงางามอยู่เสมอ อีกทั้งยังสามารถป้องกันคราบสกปรก รอยน้ำ แสงแดด และรอยขีดข่วนต่าง ๆ ได้ โดยสามารถเลือกได้ทั้งการเคลือบแว็กซ์ เคลือบซิลิโคน หรือเคลือบแก้ว ซึ่งมีอายุใช้งานและราคาที่แตกต่างกันออกไป
4.จอดรถในเต็นท์จอดรถ
สำหรับบ้านใครที่มีพื้นที่หรือบริเวณที่ค่อนข้างกว้าง การติดตั้งเต็นท์จอดรถก็เป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกันรถจากแดดและฝนได้ในระยะยาว โดยควรเลือกเต็นท์จากผู้ให้บริการที่มีความชำนาญด้านการติดตั้งและมีประสบการณ์ยาวนาน รวมถึงมีเต็นท์ให้เลือกหลากหลายขนาด หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถได้เป็นอย่างดี
5.ตรวจเช็กสภาพยาง
ยางรถเป็นส่วนที่อาจเกิดความเสียหายได้มากที่สุดเมื่อนำรถจอดตากแดดตากฝนเป็นเวลานาน ๆ โดยควรเช็กสภาพยางกว่าเกิดการบวม เกิดรอยแตก หรือมียางในเสื่อมสภาพหรือไม่ หากมีให้รีบทำการเปลี่ยนหรือซ่อมแซมยางทันทีเพื่อความปลอดภัย
6.ตรวจเช็กสภาพแบตเตอรี่
การจอดรถกลางแจ้งนาน ๆ ย่อมส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพจากทั้งความร้อนและความชื้นได้ หลังจากที่เราหาวิธีป้องกันรถจากแดดและฝนได้แล้ว ก็ควรตรวจเช็กการใช้งานของแบตเตอรี่ว่ายังเป็นปกติหรือไม่ และยังสามารถสตาร์ตรถได้ตามปกติหรือไม่
7.ทำประกันรถ
นอกจากเรื่องของสภาพอากาศทั่วไปแล้ว ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมหรือพายุฝนก็มีโอกาสสร้างความเสียหายกับรถของเราได้เช่นกัน การทำประกันรถที่ครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้รถในกรณีที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น
การนำรถจอดตากแดดตากฝนสามารถส่งผลเสียต่อรถได้หลากหลายด้าน ทั้งความสกปรกของเศษดิน เศษฝุ่น ที่ติดอยู่บริเวณรอบรถ การเสื่อมสภาพของวัสดุภายนอกรถอย่างตัวถัง สี ยางรถ หรือการทำงานของระบบภายในอย่างเครื่องยนต์หรือแบตเตอรี่ ดังนั้นการป้องกันความเสียหายที่ดีที่สุดคือการเลือกจอดรถไว้ในที่ที่ปลอดภัย อย่างโรงรถหรือเต็นท์จอดรถ ที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ สามารถป้องกันทั้งแสงแดดรวมถึงพายุฝนที่อาจสร้างความเสียหายให้กับรถของเราได้
หากคุณกำลังมองหาบริการเช่าเต็นท์ผ้าใบคุณภาพสูง ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกงานบุญและงานเลี้ยงนอกสถานที่ “สยามชัยเต็นท์” เป็นผู้ให้บริการเช่าเต็นท์ผ้าใบโครงสร้างเหล็กและโครงสร้างอะลูมิเนียมทั้งแบบรายวัน-รายเดือน มีเต็นท์ให้เลือกหลายขนาด หลายรูปแบบ แข็งแรงทนทาน ได้มาตรฐาน นอกจากนี้เรายังมีบริการดูพื้นที่หน้างานพร้อมให้คำปรึกษา และบริการติดตั้งเต็นท์ผ้าใบจากทีมผู้เชี่ยวชาญทุกที่ทั่วประเทศ
ติดต่อสยามชัยเต็นท์
โทร : 02-812-8650-8, 099-245-1542
Facebook : siamchaitentevent
Line : @siamchaitent
Website : siamchaitent.com
สำหรับบ้านใครที่มีพื้นที่หรือบริเวณที่ค่อนข้างกว้าง การติดตั้งเต็นท์จอดรถก็เป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกันรถจากแดดและฝนได้ในระยะยาว โดยควรเลือกเต็นท์จากผู้ให้บริการที่มีความชำนาญด้านการติดตั้งและมีประสบการณ์ยาวนาน รวมถึงมีเต็นท์ให้เลือกหลากหลายขนาด หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถได้เป็นอย่างดี
5.ตรวจเช็กสภาพยาง
ยางรถเป็นส่วนที่อาจเกิดความเสียหายได้มากที่สุดเมื่อนำรถจอดตากแดดตากฝนเป็นเวลานาน ๆ โดยควรเช็กสภาพยางกว่าเกิดการบวม เกิดรอยแตก หรือมียางในเสื่อมสภาพหรือไม่ หากมีให้รีบทำการเปลี่ยนหรือซ่อมแซมยางทันทีเพื่อความปลอดภัย
6.ตรวจเช็กสภาพแบตเตอรี่
การจอดรถกลางแจ้งนาน ๆ ย่อมส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพจากทั้งความร้อนและความชื้นได้ หลังจากที่เราหาวิธีป้องกันรถจากแดดและฝนได้แล้ว ก็ควรตรวจเช็กการใช้งานของแบตเตอรี่ว่ายังเป็นปกติหรือไม่ และยังสามารถสตาร์ตรถได้ตามปกติหรือไม่
7.ทำประกันรถ
นอกจากเรื่องของสภาพอากาศทั่วไปแล้ว ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมหรือพายุฝนก็มีโอกาสสร้างความเสียหายกับรถของเราได้เช่นกัน การทำประกันรถที่ครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้รถในกรณีที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น
การนำรถจอดตากแดดตากฝนสามารถส่งผลเสียต่อรถได้หลากหลายด้าน ทั้งความสกปรกของเศษดิน เศษฝุ่น ที่ติดอยู่บริเวณรอบรถ การเสื่อมสภาพของวัสดุภายนอกรถอย่างตัวถัง สี ยางรถ หรือการทำงานของระบบภายในอย่างเครื่องยนต์หรือแบตเตอรี่ ดังนั้นการป้องกันความเสียหายที่ดีที่สุดคือการเลือกจอดรถไว้ในที่ที่ปลอดภัย อย่างโรงรถหรือเต็นท์จอดรถ ที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ สามารถป้องกันทั้งแสงแดดรวมถึงพายุฝนที่อาจสร้างความเสียหายให้กับรถของเราได้
หากคุณกำลังมองหาบริการเช่าเต็นท์ผ้าใบคุณภาพสูง ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกงานบุญและงานเลี้ยงนอกสถานที่ “สยามชัยเต็นท์” เป็นผู้ให้บริการเช่าเต็นท์ผ้าใบโครงสร้างเหล็กและโครงสร้างอะลูมิเนียมทั้งแบบรายวัน-รายเดือน มีเต็นท์ให้เลือกหลายขนาด หลายรูปแบบ แข็งแรงทนทาน ได้มาตรฐาน นอกจากนี้เรายังมีบริการดูพื้นที่หน้างานพร้อมให้คำปรึกษา และบริการติดตั้งเต็นท์ผ้าใบจากทีมผู้เชี่ยวชาญทุกที่ทั่วประเทศ
ติดต่อสยามชัยเต็นท์
โทร : 02-812-8650-8, 099-245-1542
Facebook : siamchaitentevent
Line : @siamchaitent
Website : siamchaitent.com
Powered by
MakeWebEasy.com