ศรีกรุง“ความยั่งยืน” ไม่ใช่เพียงแค่จากอดีตถึงปัจจุบัน
แต่ต้องเตรียมรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตด้วย
ศรีกรุงพาส่อง 5 เทรนด์ที่จะมาเปลี่ยนธุรกิจประกัน
1.เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs (Sustainable Development Goals)
ศรีกรุงมุ่งตอบโจทย์เพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนสากล ด้วยการสร้างอาชีพ กระจายรายได้ และช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงประกันภัยที่เหมาะสมได้ในราคาที่คุ้มค่า
2. ประกันที่ยืดหยุ่นได้ตามแต่ละบุคคล ด้วยเทคโนโลยี IoT
ประกันที่ยืดหยุ่นได้ตามแต่ละบุคคล (Personalized Insurance) คือประกันที่ปรับแผนและค่าเบี้ยให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล อิงข้อมูลการใช้ชีวิตในแง่ต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาร่วมด้วย เช่น อุปกรณ์เทเลเมติกส์ (อุปกรณ์เก็บข้อมูลการใช้รถยนต์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ด) ซึ่งจะพบได้มากขึ้นในอนาคต
3. ช่องทางออนไลน์จะยังเติบโตได้อีกมาก
แม้การใช้ชีวิตของคนในสังคมจะกลับเข้าใกล้ภาวะปกติ แต่วิถีชีวิตออนไลน์ได้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว การขายประกันภัยผ่านออนไลน์ยังมีโอกาสอีกมาก นายหน้าประกันต้องเร่งสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ และนำระบบแชทบอทเข้ามาใช้ จะช่วยสร้างยอดขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
4. เพราะยุคนี้ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต
ในยุคทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบนี้ สิ่งใหม่ๆ จึงเกิดขึ้นตลอด ในธุรกิจประกันก็เช่นกัน ประกันใหม่ๆ ออกมาเพื่อรับกับวิถีชีวิตแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ นายหน้าจึงต้องหมั่นเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
5. การทำงานในรูปแบบใหม่
ในยุคที่การทำงานไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ และการทำงานเพียงงานเดียวไม่มั่นคงอีกต่อไป ส่งผลให้งาน Work From Home ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ซึ่งศรีกรุงเชื่อว่าอาชีพตัวแทน นายหน้าจะได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ และจะเติบโตได้อีกมาก
.