คาร์ซีท คืออุปกรณ์เสริม ใช้สำหรับให้เด็กนั่งโดยสารบนรถ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย เป็นอุปกรณ์เสริมที่สำคัญมาก หลายครั้งที่เราได้เห็นข่าวอุบัติเหตุที่มีเด็กนั่งมาในรถ เสียชีวิตจากการกระเด็นออกมานอกตัวรถ ซึ่งมาจากจากการที่ไม่ใช้ Car seat ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้ามากครับ ด้วยความสำคัญด้านความปลอดภัยนี้ หลายประเทศถึงขั้นออกเป็นกฎหมาย มีบทลงโทษชัดเจน บังคับใช้เลยว่า ถ้ามีเด็กนั่งในรถ คุณต้องใช้ Car seat นะ ไม่อย่างนั้นจะมีโทษปรับ เป็นเรื่องที่ถ้ามีลูกต้องให้ความสำคัญมากๆนะครับ เพื่อความปลอดภัยของบุตรหลานของท่านเอง
ประโยชน์ของคาร์ซีท
- เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยของคุณ ตามที่ได้กล่าวถึงในเบื้องต้น อุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ฉะนั้นการป้องกันเพื่อลดความเสียหายจากอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ทำได้
- ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ บางท่านอาจจะสงสัย ว่าเกี่ยวเหรอ เกี่ยวครับ การให้ลูกน้อยของคุณอยู่กับที่ ทำให้คุณมีสมาธิในการขับรถ เด็กไม่กวนขณะขับรถ ไม่ข้ามไปข้ามมา ถึงแม้จะเป็นผลพลอยได้เล็กๆ แต่ก็ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้มากทีเดียว
- ทำให้สะดวกในการดูแลเด็ก ยิ่งถ้าคุณต้องดูเด็กคนเดียวด้วยแล้ว จะสะดวกมากกว่าให้เด็กนั่งกับเบาะรถแน่นอนครับ ถ้าไม่มีคาร์ซีทบอกเลยว่าทำอะไร หรือไปไหนมาไหนไม่สะดวกแน่ๆ
ต่อให้คุณไม่ได้เลี้ยงเด็กคนเดียว ก็อย่าได้คิดว่านั่งตักอุ้มเอาก็ได้ สะดวกเหมือนกัน มีหลายครั้งหลายเหตุการณ์ที่เกิดอุบัติเหตุ ถึงแม้เด็กอาจจะไม่กระเด็นออกมานอกรถ แต่ก็มีการฟาดกับคอนโซล หรือหลุดมือกลิ้งอยู่ในรถ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย หากคุณใช้ Car seat กันไว้ดีกว่าแก้ เดี๋ยวจะแย่เพราะแก้ไม่ทันนะครับ
Car seat มีกี่แบบเราจะแบ่ง คาร์ซีท ออกเป็นแบบต่างๆ ตามลักษณะการติดตั้งดังนี้
- แบบนั่งหันหน้าไปหลังรถ หรือ Rearward facing baby seat ซึ่ง Car seat แบบนี้จะติดตั้งแบบหันหลังไปด้านหน้า และหันหน้าเด็กไปหลังรถ เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงประมาณ 15 เดือนเพราะว่า เด็กทารกแบบนี้มีกระดูกคอและหลังยังไม่แข็งแรงพอที่รองรับการกระแทก หรือกระชาก การที่หน้าเด็กหันไปทางด้านหลังรถช่วยลดแรงกระแทกจากการชนหรือเบรกกระทันหันได้เป็นอย่างดี
- แบบผสม นั่งหันหน้าเด็กได้ทั้งหน้ารถและหลังรถ หรือ Combination seat เป็นคาร์ซีทแบบผสมที่ใช้ได้ทั้งสองแบบ เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนไปถึง 6 ปี เป็นแบบที่ค่อนข้างคุ้มเพราะนอกจากใช้หันหลังเด็กออกหน้ารถตอนที่กระดูกยังไม่แข็งแรงแล้ว เมื่อเริ่มโตขึ้นมาหน่อยแล้ว ยังหันมานั่งแบบหันหน้าออกหน้ารถได้อีกด้วย หลายท่านสงสัยว่า ทำไมต้องให้หันหน้าออกด้วยละ ในเมื่อบอกว่า หันหลังแล้วช่วยลดแรงกระแทกได้ เป็นแบบนี้ครับ พอเด็กเริ่มโตขึ้น การหันหน้าเขาเข้ากับเบาะเป็นเวลานานๆ เด็กย่อมมีอาการเบื่อ อาจจะทำให้เกิดอาการงอแงขึ้นมาได้ ฉะนั้นหันหน้าเขาไปหน้ารถก็ทำให้เขาได้มองสิ่งต่างๆทำให้นั่งรถได้ง่ายและนานขึ้น
- แบบมีพนักพิงหลัง หรือ High backed Booster Seat เป็นคาร์ซีทที่เหมาะกับเด็กที่มีอายุ 4 ถึง 12 ปี ซึ่งเป็นเด็กที่ค่อนข้างโตพูดรู้เรื่องแล้ว จะมีเบาะเสริมด้านหลังทำให้รู้สึกว่านั่งสบายมากขึ้น เป็นการเตรียมเด็กให้พร้อมสำหรับการนั่งเบาะรถปกติ โดยใช้เข็มขัดนิรภัยได้แล้ว
- แบบนั่งหันหน้าไปหน้ารถ หรือ Forward facing child seat เป็นคาร์ซีทแบบที่เหมาะกับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อยแล้ว ตั้งแต่อายุประมาณ 9 เดือน ถึง 11 ปี เรียกได้ว่าใช้ได้ตั้งแต่เล็กเล็กจนถึงเด็กโต แต่ไม่ได้หมายถึงตัวเดียวใช้ยาวเลยนะครับ เพราะจะมีเรื่อง Size ด้วย Car seat แบบนี้เป็นที่นิยม จนหลายๆท่านอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นแบบมาตรฐานไปเลยก็ว่าได้
สุดท้ายนี้ อยากให้ทุกท่านที่มีบุตรหลาน เห็นความสำคัญแล้วความจำเป็นของการใช้อุปกรณ์เสริมชิ้นนี้นะครับ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของเด็กๆขณะนั่งรถ เสียเงินเพิ่มสักหน่อยเถอะครับ อันนึงใช้ได้นานแน่นอน ถ้าถึงเวลาที่เด็กของเรานั่งไม่ได้แล้ว ก็ยังนำออกมาขายเป็น คาร์ซีทมือสอง ได้อีก เราไม่อยากเห็นโศกอนาฏกรรมที่เกิดกับเด็กเล็กๆในอุบัติเหตุ ถึงแม้จะมีประกันภัยรถยนต์กันแล้ว แต่อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ก็เป็นประโยชน์อย่างมาก
สำหรับใครที่สนใจจะสมัครสมาชิกกับศรีกรุงโบรคเกอร์ สามารถสมัครสมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์ได้ที่เว็บไซต์ www.srikrungmentor.com หรือแอดไลน์มาที่ @srikrungmentor เพียงกดเพิ่มเพื่อนที่ https://lin.ee/5hl2T56 หรือติดต่อสมัครสมาชิกศรีกรุงสาขาปทุมธานี ดีดีศูนย์รวมประกันภัย รังสิตคลองสาม
โทร080-2951830 / 080-2956052 /061-8235619